
ถ้าคุณทำงานอยู่ในโรงงานผลิตยาแบบอัดเม็ด คุณคงรู้ดีว่า “แรงอัด” เป็นสิ่งสำคัญมากต่อคุณภาพของเม็ดยา
แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามอยู่เสมอคือ…
แรงอัดขั้นต้น หรือ Pre-compression
หลายโรงงานยังคงโฟกัสแค่ค่าแรงอัดหลัก (Main compression)
โดยไม่ทันคิดว่า “แรงอัดเบาๆ ก่อนหน้า” นี่แหละที่เป็นตัวกำหนดว่า
เม็ดยาแต่ละเม็ดจะแน่นเท่ากันไหม / แตกง่ายหรือเปล่า / ผ่าน QC ได้หรือไม่
บทความนี้จะพาคุณไล่เรียงตั้งแต่พื้นฐานว่า Pre-compression คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกว่าที่คิด และเราจะวัดค่ามันให้แม่นยำได้อย่างไร
รวมถึงการใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์แบบ Real-time ที่ทำให้เห็นทุกแรงอัดที่เกิดขึ้นจริงแบบไม่ต้องเดา
Pre-compression คืออะไรในโลกจริง?
ในกระบวนการอัดเม็ดแบบทั่วไป มี 2 ขั้นตอนหลัก:
- Pre-compression – อัดเบาๆ เพื่อลดช่องว่างของผง ไล่อากาศ จัดเรียงผงให้พร้อมก่อนลงแรงจริง
- Main compression – อัดด้วยแรงสูงเพื่อสร้างเม็ดยา
ฟังดูเหมือน Pre-compression เป็นแค่ “ขั้นตอนรอง” แต่เอาจริงๆ แล้ว…
มันคือ จุดที่กำหนดว่าเม็ดยาจะขึ้นรูปได้ดีหรือเปล่า
ถ้าไม่ควบคุมแรงอัดขั้นต้นให้ดี จะเกิดอะไรขึ้น?

ผงไม่แน่น = เม็ดแตก
หากแรงอัดขั้นต้นเบาเกินไป ผงจะยังมีช่องอากาศอยู่เยอะ
เมื่อไปเจอแรงอัดหลักทีเดียวแบบเต็มๆ อากาศภายในจะดันออก ทำให้เกิดเม็ดแตก Capping / Lamination ทันที
ผงกระเด็นออกจากตำแหน่ง
ถ้าไม่จัดเรียงให้ดีก่อน ผงบางส่วนจะกระเด็นออกจากตำแหน่ง
พออัดจริง เม็ดจะไม่แน่น / ไม่สมบูรณ์ / น้ำหนักเพี้ยน
เปลือง Punch & Die โดยไม่รู้ตัว
แรงอัดหลักที่ต้องทำงานหนักเกินไป เพราะไม่ได้รับการช่วยจาก Pre-compression
จะทำให้ชิ้นส่วนสึกเร็ว และเกิดแรงกระแทกกับระบบกลไกมากขึ้น
วิธีเช็กแรงอัด Pre-compression ให้แม่นยำ

ใช้ Load Cell ที่แยกแรงอัดชัดเจน
เครื่อง Tablet Press ที่ทันสมัย จะติด Load Cell แยกเฉพาะแรงอัด Pre-compression และ Main compression
ทำให้สามารถรู้ได้ว่าแรงอัดขั้นต้นเป็นเท่าไหร่แบบเป๊ะๆ
ดูค่าบนกราฟ Real-time
ระบบอย่าง FIT Software ที่ติดมากับเครื่องอย่าง PZ-1500 จะแสดงแรงอัดเป็นกราฟ
คุณจะเห็นเลยว่าแรงอัดแต่ละจุดมีค่าเท่าไหร่ ต่างกันมากแค่ไหนในแต่ละสถานีPZ-1500
ตั้งช่วงค่าที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้า
เช่น ยาบางสูตรอาจต้องใช้ Pre-compression อยู่ในช่วง 2–4 kN
คุณสามารถตั้งค่าเตือนไว้เลย ถ้ามี Punch ไหนหลุดนอกกรอบ จะมีแจ้งเตือนทันที
บันทึกค่าทุก Batch แบบ Audit-ready
เครื่องรุ่นใหม่สามารถ Export รายงานการอัดเม็ดได้เลย
ถ้า อย. หรือ Auditor มาถาม คุณแค่เปิด Log เท่านั้น ไม่ต้องอธิบายให้เหนื่อย
FIT Software คืออะไร? และช่วยอะไรคุณได้บ้าง?
FIT คือซอฟต์แวร์วิเคราะห์แรงอัดที่ใช้คู่กับ Tablet Press รุ่นใหม่ เช่น PZ-1500
จุดเด่นของมันคือการ “มองเห็นในสิ่งที่ตาเปล่ามองไม่เห็น”
สิ่งที่ FIT วิเคราะห์ได้:
- แรงอัด Pre-compression แต่ละสถานี
- แรงอัดหลัก (Main) พร้อมเปรียบเทียบแบบคู่ขนาน
- แรงดันตอน Ejection (การดันเม็ดออก)
- แรงที่ใช้ในการแยกเม็ดยาออกจาก Punch (Detachment)
- ความลึกของการเคลื่อนที่ Punch บนและล่าง
เหมาะกับใครบ้าง?
- โรงงานที่เน้น คุณภาพสม่ำเสมอ
- โรงงานที่เคยเจอ ปัญหาเม็ดแตก / QC ไม่ผ่าน
- โรงงานที่อยากวางระบบ Predictive Maintenance
- โรงงานที่ต้องการ ลดของเสีย และเพิ่ม Yield
ตัวอย่างการใช้งานจริง: เคสจากสายการผลิต
เคส 1: เม็ดยาแตกบ่อยโดยไม่รู้สาเหตุ
ทีม QA แจ้งว่าล็อตหลังๆ เม็ดมีอาการ Capping บ่อย
หลังจากใช้ FIT วิเคราะห์ พบว่าแรง Pre-compression ตกลงจาก 3.5 kN เหลือเพียง 1.2 kN ในบาง Station
หลังปรับค่าใหม่ ปัญหาเม็ดแตกหายไปทันที
เคส 2: เปลี่ยนสูตรใหม่ แต่ไม่มั่นใจเรื่องแรงอัด
โรงงานต้องรันยาสูตรใหม่ที่มีผงละเอียด
การใช้ FIT วิเคราะห์แรงอัดช่วยให้ตั้งค่าได้เร็วขึ้น และไม่ต้องลองผิดลองถูกหลายรอบ
เคส 3: ใช้เครื่องหลายตัว แต่คุณภาพไม่เท่ากัน
ทีมเทคนิคใช้ FIT บันทึกค่าจากเครื่องที่ได้เม็ดยาดีที่สุด แล้วนำไปใช้ตั้งค่าเทียบในเครื่องอีกตัว
ผลลัพธ์คือ QC ผ่านเท่ากันแบบไม่ต้องรันซ้ำ
บทสรุป: ถ้าแรงอัดขั้นต้น “แม่น” เม็ดยาย่อม “มั่นคง”
หลายคนอาจยังคิดว่า Pre-compression เป็นแค่ขั้นตอนเล็กๆ
แต่ความจริงแล้ว…
มันคือ ต้นทางของคุณภาพ ที่ส่งผลต่อทุกสิ่งหลังจากนั้น
เพราะหากเราไล่อากาศออกไม่หมด
แรงอัดไม่พอ
หรือแรงอัดแปรปรวน
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเม็ดยาแตก QC ไม่ผ่าน เสียวัตถุดิบ และเสียเวลา
การควบคุม Pre-compression ให้แม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อมีเครื่องมืออย่าง FIT
คือทางลัดที่ทำให้
- เม็ดยาสมบูรณ์
- ผ่านทุกการตรวจสอบ
- ลดของเสีย
- ลดต้นทุนแฝง
- เพิ่มความมั่นใจในทุกล็อตที่ผลิต
เพราะเม็ดยาทุกเม็ดที่คุณผลิต…
คือความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ของคุณ
Leave a Reply